โดย พุทธฆราวาส
พุทธศาสนา นั้นคือศาสนาที่ยิ่งใหญ่ ศาสนาที่สร้างความเป็นเอกภาพ เป็นศาสนาแห่งปัญญา ศาสนาแห่งการตื่นรู้ในสัจธรรมที่แท้จริงของโลกโดยมนุษย์เอง ซึ้งไม่ต้องพึ่งบุญบารมีศักสิทธิย์ของเทพเจ้าหรือพระเจ้าทั้งหลายอันเป็นความเชื่องมงาย อันเกิดมาจากความไม่รู้หรือ"อวิชชา"นั้นเอง ซึ้งศาสนานี้ได้มอบความเป็น"พุทธะ"หรือ การตื่นรู้ให้แก่มนุษย์ชาติทุกผู้ทุกคน เฉกเช่น "ดังการเปิดของที่คว่ำ หงายของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง"
แต่ในประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธต้องเผชิญหน้ากับการทำลายหลากหลายรูปแบบ ทั้ง การสังหารหมู่ การสนับสนุนผู้ปกครองที่ฉ้อฉลมีความเป็นอธรรม การกดขี่ และการพยายามบิดเบือนคำสอนขององค์พุทธะ จากพวกเดียรถีย์ทั้งหลายที่มีจิตใจมุ่งหวังทำลายพุทธศาสนา และเพื่อทำให้ชาวพุทธเกิดความไข้วเขวต่อหลักการและเพื่อดับการตื่นรู้ทางปัญญาของมนุษย์อีกด้วย
"ลัทธิชาตินิยม"นั้นก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวพุทธไขว้เขวต่อหลักการ และหันไปนับถือหรือบูชาความเป็น รัฐ-ชาติ เป็นหลักการสำคัญแทนพุทธศาสนา โดย"ลัทธิชาตินิยม"นั้นเป็นอุดมการณ์ที่ถูกประดิษย์หรือปลูกฝังขึ้นในโลกตะวันตก ก่อนกระจายไปยังส่วนต่างของโลกผ่านการล่าอาณานิคม ชาตินิยม นั้นเป็นอุดมการณ์ที่คอยเชื่อมโยงผู้คนหรือมนุษย์เข้ากับเชื้อชาติและแผ่นดินเกิด และให้ผู้คนเหล่านั้นภักดีต่อชนชั้นปกครอง แผ่นดินเกิด และ เชื้อชาติกำเนิดของตนเอง ซึ้งนั้นคือ สิ่งอันตรายสำหรับเอกภาพของประชาชาติแห่งเรา และ ศาสนาพุทธ อันเป็นพลังสากล
ชาตินิยม เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย ชนชั้นนายทุนชาวตะวันตก และ นักจักรวรรดินิยม ผู้ละโมบทั้งหลายซึ้งหวังจะกลืนกินโลก พวกเขาเผยแผ่อุดมการณ์นี้ออกไปเพื่อหวังทำลายเอกภาพแห่งประชาชาติต่างๆ การล่าอาณานิคมของพวกเขาไม่ได้นำพาให้ดินแดนต่างๆตกเป็นอาณานิคมเท่านั้น สำหรับดินแดนที่ยังอยู่รอดปลอดภัยจากการคุกคาม ก็ต้องแปรเปลี่ยนตนเองเป็น"รัฐ-ชาติ"ตามแบบชาวตะวันตก ซึ้งเป็นการชี้ชัดว่า พวกเขาไม่ได้แค่ยึดครองเท่านั้น แต่ยังได้แปรเปลี่ยน รัฐ ที่เหลือทั้งหลายให้กลายเป็นแบบตะวันตก ผ่านกระบวนการของ"ลัทธิชาตินิยม"อีกด้วย
ไม่ใช้แค่นั้น ตัวละครที่ได้ชื่อว่าเป็น นักปฏิวัติ ต่อต้านเจ้าอาณานิคมทั้งหลายแห่งยุคสมัยใหม่ ตั้งแต่ จีน พม่า ไปจนถึง เวียดนาม ต่างเป็นบุคคลที่ได้รับการศึกษาแบบตะวันตก ได้แนวคิดแบบตะวันตก จนในที่สุดพวกเขาเองก็ได้เป็นหมู่ชาวตะวันตก ในประชาชาติพุทธ ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองหุ่นเชิดของชาวตะวันตก หรือพูดง่ายๆคือ พวกเขาเหล่านี้คือตัวแทนของอาณานิคมทางปัญญาจากโลกตะวันตก เป็นตัวแทนของเจ้านายชาวตะวันตกในอดีตดินแดนอาณานิคมนั้นเอง และหันเหพลังชาวพุทธ ไปจากการต่อสู้ที่แท้จริง ภายใต้โลกที่ครอบงำด้วย ตลาด รัฐสมัยใหม่แบบตะวันตก วัฒนธรรมบริโภค-วัตถุนิยม พูดในอีกแง่คือระบอบทุนนิยม ซึ้งนั้นคือศตรูตัวจริง มิใช้ ชาวพม่า ชาวลาว ชาวกัมพูชา ดอกที่เป็นศตรูเรา
พระพุทธเจ้านั้นทรงเคยกล่าวไว้ว่า“อย่าถามถึงชาติกำเนิด จงถามความประพฤติ”และ “คนจะเป็นอารยันก็เพราะการกระทำของตนเอง” ทรงให้โอกาสคนทุกวรรณะเข้ามาสู่สังคมของชาวพุทธ ซึ้งถือได้ว่าพระองค์นั้นไม่เคยถือเรื่อง วรรณะ หรือ เชื้อชาติ เลย ทรงไม่แบ่งแยกมนุษย์ไม่ว่า ขาว เหลือง หรือ ดำ พระองค์ทรงเชิญชวนให้ผู้คนทุกหมู่เหล่าเข้ามาศึกษาธรรมในพุทธศาสนา เพื่อนำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตและเพื่อการมองเห็นสัจธรรมของโลก
การเรียกร้องสู่ความเป็นชาตินิยม ความรักชาติ การพยายามทำให้ การพยายามทำให้ศาสนาพุทธกลายเป็นศาสนาท้องถิ่นโดยเรียกมันว่า ศาสนาพุทธแบบไทยๆแทนที่ "ศาสนาพุทธ"อันเป็นสากล และการพยายามเปลี่ยนรัฐของชาวพุทธกลายเป็นรัฐเซคูล่าร์ สิ่งเหล่านี้คือการบ่อนทำลายประชาชาติ และเป็นการฟื่นฟูอารยธรรมของคนป่าเถื่อนในแถบนี้ ที่ไหว้ผี ไหว้แถน โดยหลงลืมไปแล้วว่า ไม่ใช้เพราะ อารยธรรมที่เกิดจากพระไตรปิฏกหรอกเหรอ ที่ได้สรรค์สร้างอารยธรรมที่สวยงามในสมัยโบราณ และ นำความเจริญทางด้านความรู้ไปให้ หรือว่ากระแสแห่งชาตินิยม และการทำตัวแบบชาวตะวันตก จะทำให้เราลืมเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของชาวพุทธในอดีตไปแล้ว.